การตกรอบครั้งล่าสุด พวกเขาแพ้ ฝรั่งเศส ซึ่งอาจบอกได้ว่าพวกเขาโชว์ฟอร์มได้ไม่เลว

แต่เป็นการแพ้จังหวะ แพ้ความเด็ดขาด แถมติดซวยที่ยิงจุดโทษในเกมพลาดแกเร็ธ เซาธ์เกต จึงรอดพ้นจากการถูกสื่ออังกฤษที่มีอัตราความโรคจิตสูงรุมถล่มที่สำคัญคือกุนซือผู้นี้คือกุนซือทีมชาติอังกฤษที่มีผลงานไฉไลที่สุด นับตั้งแต่ เซอร์ บ๊อบบี้ ร็อบสัน กับ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์แต่สุดท้าย พวกเขาก็ไปไม่ถึงดวงดาวอยู่ดีนั่นแหละหมายความว่าถึงอย่างไร ต่อให้ดีขนาดไหน อังกฤษ ก็ไม่สามารถก้าวข้ามตัวเองได้ในรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก 1990 อังกฤษ

เล่นดีกว่าทีมอินทรีเหล็กด้วยซ้ำเช่นเดียวกับในรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2018 ที่ไม่ได้เจอคู่แข่งอย่าง บราซิล, อาร์เจนติน่า, ฝรั่งเศส หรือ สเปน สักหน่อยหรือล่าสุด เกมของพวกเขาก็ไม่ได้เป็นรอง ศักยภาพผู้เล่นก็ไม่ได้ด้อยกว่าสักเท่าไหร่สุดท้ายก็ตายเหมือนเดิมอังกฤษ ลองใช้ผู้จัดการทีมชาวต่างชาติมาแล้ว 2 คน คือ สเวน โกรัน อีริคส์สัน กับ ฟาบิโอ คาเปลโล่ทว่าผลงานก็ไม่ได้แตกต่างจากการใช้กุนซือสายพันธุ์สิงโตคำรามสักเท่าไหร่ แถมด้อยกว่าด้วยซ้ำแกเร็ธ เซาธ์เกต ผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่มา 3 ครั้ง ผลงานจัดว่าไม่เลวก็จริง แต่เมื่อถึงเกมที่ชี้เป็นชี้ตาย พวกเขาพ่าย โครเอเชีย, อิตาลี และ ฝรั่งเศสคำถามคือควรให้โอกาสกุนซือคนปัจจุบันที่อุดมด้วยบทเรียน และเพียบประสบการณ์จะช่วยให้อังกฤษก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเองได้หรือไม่ในทัวร์นาเมนต์ต่อไปหรือถึงเวลาเปลี่ยนแปลงใหม่อีกครั้งอังเคล ดิ มาเรีย สตาร์ทีมชาติ อาร์เจนติน่า เปิดปากยัน หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ทีมชาติ ฮอลแลนด์ เป็นโค้ชที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพนักเตะของเขาช่วงที่เคยร่วมงานกันในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด

อาร์เจนติน่า มีคิวลงเล่นเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบแปดทีมกับ ฮอลแลนด์ ในวันศุกร์นี้ และแม้ยังไม่แน่ว่าสตาร์ทีม

ยูเวนตุส จะได้ต่อกรกับ อัศวินสีส้ม หรือเปล่าเนื่องจากในเกมชนะ ออสเตรเลีย 2-1รอบ16 ทีมเขาไม่ถูกส่งลงเล่นแต่ล่าสุดดิมาเรียโหมความร้อนแรงก่อนเกมปะทะกับทีมจากยุโรปว่า ฟาน กัล เป็นกุนซือที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา”ปัญหาของผมที่แมนเชสเตอร์คือโค้ชหลุยส์ฟานกัลเป็นโค้ชที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพของผม” ดิ มาเรีย เอ่ยโดยเมื่อปี 2014 เขาย้ายมาจากเรอัลมาดริดด้วยการเซ็นสัญญากับผีแดงห้าปีแต่ในเวลาแค่ปีเดียวเขาก็อำลาโอลด์แทรฟฟอร์ด ไปร่วมทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

“ผมยิงประตูได้ ผมแอสซิสต์ได้ แต่วันรุ่งขึ้นเขาแสดงให้เห็นว่าผมผ่านบอลเสียเขาถอดผมออกเขาไม่ชอบให้นักเตะเด่นกว่าเขาสำหรับฮอลแลนด์กับอาร์เจนติน่า ดวลกันมาแล้วทั้งหมดห้าครั้งหากจะนับเฉพาะในศึกฟุตบอลโลกโดยทีมจากละตินชนะแค่หนเดียวในปี 1978 (3-1)ขณะที่ทีมจากยุโรปชนะสองหนในปี 1974 (4-1) และ 1998 (2-1)ส่วนอีกสองหนเป็นการเสมอกันในปี 2006 (0-0, รอบแบ่งกลุ่ม)และ2014(0-0,รอบตัดเชือกอาร์เจนติน่าชนะดวลลูกโทษ 4-2)คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสถูกจับจ้องอีกจนได้ว่าเป็นนักเตะ ฝอยทองคนแรกที่เดินกลับเข้าอุโมงค์ทันทีหลังจบเกมฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมนัดถล่ม สวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันอังคารที่ 6 ธ.ค.โรนัลโด้ถูกดร็อปออกจากทีมตัวจริงเป็นครั้งแรกในเกมบู๊กับสวิสโดยกุนซือแฟร์นานโดซานโต้สลือกส่ง กอนซาโล่ รามอส ลงสนามแทนและเป็นการเดิมพันที่ถูกต้องเนื่องจากหัวหอกทีมเบนฟิก้าสร้างชื่อได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการกดแฮททริคก่อนโดนเปลี่ยนออกให้ศูนย์หน้าวัย 37 ปีลงเล่นแทนในนาทีที่ 73

อย่างไรก็ดี หลังจาก โปรตุเกส โชว์ฟอร์มสุดยอดพิชิต สวิตเซอร์แลนด์ ได้อย่างเด็ดขาด นักเตะ ฝอยทอง ก็พากันฉลองในสนามอยู่นาน แต่ โรนัลโด้ กลับเดินเข้าอุโมงค์เป็นคนแรกทันทีโดยมีรายงานข่าวระบุว่าเขามีปัญหากับ ซานโต้ส ซึ่งหั่นเขาออกจากโผ 11 คนแรก

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมใหม่ๆ ได้ที่ thetabulator.com